การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ตามโอกาสพิเศษ สังสรรค์กับเพื่อนฝูง หรือว่านานๆ ทีดื่ม อาจถือว่าเป็นการดื่มเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ดื่มมากจนเสียสุขภาพ แต่หลายคนที่ดื่มแอลกอฮอล์มากจนส่งผลต่อสุขภาพ อาจจะกำลังอยากจะลดการดื่มแอลกอฮอล์ แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน
Hello คุณหมอ มีเคล็ดลับในการเลิกดื่มง่ายๆ ที่คุณเองก็ทำได้มาฝากกัน
ดื่มแอลกอฮอล์มาก ส่งผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
ก่อนที่จะไปอ่านเคล็ดลับวิธีการลดการดื่มแอลกอฮอล์ลงนั้น Hello คุณหมอ อยากจะชวนทุกคนมาอ่านถึงผลกระทบของแอลกอฮอล์ต่อสุขภาพกันว่ามีอะไรบ้าง
ความเสี่ยงสุขภาพระยะสั้น
การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มาก จนส่งผลต่อการควบคุมร่างกายและสติ เป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพที่เป็นอันตราย อย่าง
- การบาดเจ็บจากอุบัติเหตุ เช่น การขับรถ การตกน้ำ
- การใช้ความรุนแรง การดื่มแอลกอฮอล์อาจทำให้บางคนขาดสติจนถึงขั้นใช้ความรุนแรงต่อทั้งตนเองและผู้อื่น
- พิษแอลกอฮอล์ เป็นภาวะมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูง
- การแท้งบุตร การคลอดที่ผิดปกติ
ความเสี่ยงสุขภาพระยะยาว
นอกจากการดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปมากๆ จะส่งผลต่อสุขภาพในระยะสั้นแล้วนั้น การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ดื่มอยู่เป็นประจำอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเรื้อรังและพัฒนาไปเป็นโรคอื่นๆ ได้อีก ดังนี้
- ความดันโลหิตสูง
- โรคหัวใจ
- โรคหลอดเลือดสมอง
- โรคตับ
- ปัญหาการย่อยอาหาร
- มะเร็งเต้านม
- มะเร็งปาก
- มะเร็งลำคอ
- มะเร็งตับและลำไส้
- ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง
- ทำให้ติดเชื้อและป่วยได้ง่าย
- ปัญหาสุขภาพจิต อย่าง ภาวะซึมเศร้า วิตกกังวล
- โรคพิษสุราเรื้อรัง
เรียนรู้วิธีลดการดื่มแอลกอฮอล์ที่คุณเองก็ทำได้
คุณกำลังหาทางลดปริมาณแอลกอฮอล์ลงอยู่รึเปล่า หากการดื่มแอลกอฮอล์ส่งผลต่อสุขภาพและการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ชีวิตของคุณนั้นแย่ลง การลดปริมาณลงมาก็ถือเป็นตัวเลือกที่ไม่แย่ ค่อยๆ ลดปริมาณลงมา ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงทีละเล็กน้อย ยิ่งดื่มน้อยลงความเสี่ยงต่อสุขภาพก็จะยิ่งน้อยลงด้วย ไปดูกันว่าเคล็ดลับที่ช่วยให้คุณลดการดื่มลงมีอะไรบ้าง
- ตั้งเป้าหมายที่ละเล็กน้อย
การตั้งเป้าหมายที่ละเล็กน้อยนั้นช่วยให้คุณมีกำลังใจในการลดปริมาณแอลกอฮอล์ลง เมื่อเป้าหมายที่ตั้งไว้นั้นสามารถทำได้อย่างที่หวัง ก็จะยิ่งทำให้มีกำลังใจในการลดมากขึ้น โดยเริ่มจากการตั้งเป้าหมายว่าในหนึ่งวันจะดื่มเท่าไร และในหนึ่งอาทิตย์จะดื่มกี่วัน ซึ่งการจดบันทึกจะช่วยย้ำเตือนอยู่เสมอว่าเราจะต้องลดปริมาณการดื่มลง และปัจจัยสำคัญคือต้องดื่มในปริมาณที่ตั้งเป้าไว้อย่างเคร่งครัด
- นับการดื่ม
การนับการดื่ม อย่างการบันทึกลงในสมาร์ทโฟน หรือจดลงในกระดาษใบเล็กๆ ในกระเป่าตังค์จะช่วยให้คุณเห็นว่าคุณนั้นดื่มไปมากเท่าไรแล้ว เมื่อเห็นก็จะช่วยเตือนใจได้ว่าเกินปริมาณที่ตั้งเป้าไว้แล้วหรือยัง
- ดื่มอย่างช้าๆ
การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างช้า ๆ ดื่มด่ำกับบรรยากาศในร้านอาหารหรือวงสนทนามากกว่าปริมาณแอลกอฮอล์ที่ดื่มช่วยให้คุณดื่มแอลกอฮอล์ได้น้อยลง
- ดื่มเครื่องดื่มอื่นๆ คั่น
วิธีนี้อาจจะฟังดูแปลก ที่จะลดการดื่มแอลกอฮอล์โดยการดื่มเครื่องดื่มอื่น ๆ คั่น เช่น ดื่มแอลกอฮอล์แล้ว อาจจะเปลี่ยนไปดื่มน้ำเปล่า เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์อื่น ๆ แล้วค่อยกลับมาดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีก เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยให้คุณดื่มแอลกอฮอล์ได้น้อยลง แต่ยังคงนั่งดื่ม นั่งคุยกับเพื่อนๆ ได้
- รับประทานอาหารไปด้วย
การรับประทานอาหารไปด้วยระหว่างการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นตัวช่วยลดความอยากในการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อรับประทานอาหารเข้าไปมากๆ ก็จะช่วยให้ท้องอิ่ม ดื่มได้น้อยลง วิธีนี้ถือเป็นอีกตัวเลือกในการลดการดื่มที่ดี แถมยังอิ่มท้องอีกด้วย
- หลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะนำไปสู่การดื่ม
การหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่จะนำไปสู่การดื่มแอลกอฮอล์ เป็นการลดการดื่มที่ถือว่าตรงจุด หากเราเลี่ยงสถานที่ ผู้คน หรือกิจกรรมที่เมื่อเจอต้องมีการดื่มแน่ๆ เป็นวิธีการหลีกเลี่ยงที่ดี ช่วยป้องกันคุณจากการดื่มได้
- หากิจกรรมอื่นๆ ทำ
การทำกิจกรรมอื่นๆ แทนในช่วงเวลาที่มักจะดื่ม เพื่อลดการดื่มแอลกอฮอล์ถือเป็นเรื่องที่ดี โดยเลือกกิจกรรมที่คุณชอบ เพราะจะได้ทำได้อย่างสนุกสนาน ลืมเรื่องการดื่มได้ ไม่ว่าจะเป็น การเล่นกีฬา ออกกำลังกาย หรือจะใช้เวลากับครอบครัวมากขึ้นก็ได้ วิธีนี้อาจช่วยให้คุณค้นพบสิ่งที่น่าสนใจใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำได้
- ปฏิเสธให้เป็น
การเรียนรู้ที่จะปฏิเสธนั้น เป็นเรื่องที่ดี หากคุณไม่กล้าที่จะปฏิเสธ เมื่อมีคนชวนก็ดื่มทุกครั้ง ทำให้คุณอาจไม่สามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์ได้ ก็จะทำให้ดื่มมากขึ้น จนไม่สามารถลดการดื่มลงได้ ดังนั้นคุณจึงควรเรียนรู้ที่จะปฏิเสธการชักชวนในการดื่มลงบ้าง ไม่ต้องเกรงใจ ให้นึกไว้ว่าสุขภาพและร่างกายจะเสี่ยงมากขึ้นหากดื่มมากๆ
"มากเกินไป" - Google News
August 27, 2020 at 11:42AM
https://ift.tt/3aXCzSa
7 เคล็ดลับช่วย "เลิกเหล้า" ได้อย่างง่ายๆ - Sanook
"มากเกินไป" - Google News
https://ift.tt/3ctwdZD
0 Comments:
Post a Comment