นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า สำหรับการเข้ามาฝึกร่วมของทหารสหรัฐอเมริกา เข้ากักตัวในโรงแรมที่เป็นสถานกักตัวทางเลือกนั้น ผลการตรวจหาเชื้อโควิดทหาร จำนวน 110 นาย ไม่พบเชื้อ ส่วนข้อกังวลเกี่ยวกับการเข้าไปใช้บริการโรงแรมที่เปิดเป็นสถานที่กักตัวทางเลือกนั้น ศบค.ไม่เคยปิดบังรายชื่อผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ ประกาศผ่านเว็บไซต์มาโดยตลอด อีกทั้งโรงแรมที่มีมาตรการระดับสูงเท่านั้นจึงได้รับการคัดเลือกให้ร่วมโครงการ โดยถูกจัดการและควบคุมจากฝ่ายความมั่นคงและสาธารณสุข เช่น แยกปีกอาคารโรงแรมในการเข้าพัก แยกทางเข้าออก มีแพทย์ดูแล 24 ชม. เป็นต้น
หากประชาชนกังวลมากเกินไป จะเป็นการหยุดโควิดและหยุดเศรษฐกิจไทยไปพร้อมกัน สถานที่กักตัวทางเลือกเป็นการแบ่งเบาภาระการกักตัวให้ภาคเอกชนดูแลตัวเอง กักตัวไม่ครบ 14 วัน ห้ามออกไปไหน โดยเหตุการณ์ที่ จ.ระยองเป็นบทเรียนสำคัญ ทำให้ ศบค.กำชับไปยังทุกแห่งต้องปฏิบัติตาม ที่สำคัญคนที่เข้ามาเป็นคนปกติ ไม่ได้ติดเชื้อ ความเสี่ยงน้อย และต้องผ่านการตรวจซ้ำ 2-3 ครั้ง เราควบคุมไม่ให้มีใครนำเชื้อเข้ามาประเทศ แต่ต้องจัดสมดุลไม่ให้ตระหนกจนทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า นักธุรกิจจำนวนมากอยากเข้ามาลงทุนและทำสัญญาในประเทศไทย ล่าสุดนักธุรกิจชาวจีนจะเข้ามานำผลผลิตลำไยมูลค่ากว่าพันล้านออกไปค้าขาย โดยจะเข้ามา 3 เดือน ยอมกักตัว 14 วัน เพื่อนำลำไยจากไทยออกไปค้าขาย และต่อไปจะมีการเข้ามาในระยะสั้นๆ ซึ่งต้องขอความเข้าใจจากคนไทยด้วย
"มากเกินไป" - Google News
August 07, 2020 at 01:59PM
https://ift.tt/3ilObRr
ผลตรวจทหารสหรัฐฯไม่ติดเชื้อ นักลงทุนจีนจ่อเข้าไทยเพิ่ม - ช่อง 7
"มากเกินไป" - Google News
https://ift.tt/3ctwdZD
0 Comments:
Post a Comment